หลักการและเหตุผล
หลักการและเหตุผล :
เนื่องด้วย รัฐบาลประเทศไทยเห็นสมควรกำหนดให้มีกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลพระราชบัญญัตินี้มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๖ ประกอบกับมาตรา ๓๒ มาตรา ๓๓ และมาตรา ๓๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย เหตุผลและความจำเป็นในการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลตามพระราชบัญญัตินี้ เพื่อให้การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีประสิทธิภาพและเพื่อให้มีมาตรการเยียวยาเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจากการถูกละเมิดสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งการตราพระราชบัญญัตินี้สอดคล้องกับเงื่อนไขที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๖ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแล้ว มาตรา ๑ ได้กำหนดพระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒” ลงราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ตามมาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป เว้นแต่บทบัญญัติในหมวด ๒ หมวด ๓ หมวด ๕ หมวด ๖ หมวด ๗ และความในมาตรา ๙๕ และมาตรา ๙๖ ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกาหนดหนึ่งปีนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป และจากการที่ผลของพระราชบัญญัติบังคับใช้ในวงกว้างหลายหน่วยงานทั้งทางรัฐและภาคเอกชนทุกหน่วยงานจะต้องปรับตัวและแก้ไขในขั้นตอน การดำเนินงานาการให้บริการ การนำไปใช้ของข้อมูลและการเก็บรักษาข้อมูลของผู้ใช้บริการ ที่จะต้องทำด้วยความรอบคอบ ถูกต้อง ให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติ เมื่อวันที่ ๑๒ พ.ค. ที่ผ่านมา รัฐบาลผู้ออกกฎหมาย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ICT) จึงประกาศเลื่อนการบังคับใช้ไปเป็นระยะเวลาอีกหนึ่งปี ซึ่งหมายถึงการบังคับใช้จะเริ่มบังคับใช้ในวันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๖๔ นั่นเอง ดังนั้นเพื่อให้ภาคธุรกิจ อุตสาหกรรมด้านยาและแวดวงวิชาชีพเภสัชกรรม ได้เข้าใจในเนื้อหาสาระของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒ ซึ่งเป็นกฎหมายใหม่ และส่งผลกระทบและการเตรียมความพร้อมของเภสัชกรในวงกว้าง โดยหน่วยงาน เภสัชกรรมสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (PAT) สมาคมเภสัชกรรมทะเบียนและกฎหมายผลิตภัณฑ์ (RAPAT) สมาคมเภสัชกรอุตสาหการ (TIPA) สมาคมผู้วิจัยและผลิตเภสัชภัณฑ์ (PReMA) สมาคมไทยอุตสาหกรรมผลิตยาแผนปัจจุบัน (TPMA) สมาคมเภสัชภัณฑ์และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ (TSMIA) และมูลนิธิเภสัชกรรมชุมชน จะทำการจัดประชุมวิชาการแบบออนไลน์ ในชื่อเรื่อง “รู้ทันกฎหมาย พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 (Personal Data Protect Act or PDPA) และการปรับตัวเตรียมความพร้อมของงานวิชาชีพเภสัชกรรม” เพื่อที่จะสร้างเสริมความรู้ และการเตรียมการของเภสัชกรและหน่วยงาน องค์กรด้านยา อุตสาหกรรม และวิชาชีพ ได้ปรับตัว และนำไปสู่การปฏิบัติได้จริง ไม่ทำผิดกฎหมาย ต่อ พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒
ทั้งนี้ ทางคณะผู้จัดงานการประชุมจะทำการจัดประชุมแบบเป็นแต่ละครั้ง หรือ EP ต่อเนื่อง เพื่อการให้ความรู้ทางด้านกฎหมาย สาระสำคัญต่าง ๆ ชองกฎหมายที่ควรรู้ ของ พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒ และแชร์ประสบการณ์จากการเตรียมตัวและลงสู่ภาคปฏิบัติจริงของหน่วยงาน โดยผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายและหรือตัวแทนจากภาคสมาคมของเครือข่ายเภสัชกรรม
วัตถุประสงค์
วัตถุประสงค์ :
๑) เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจแก่เภสัชกร ภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรม และเครือข่ายเภสัชกรรม ในเรื่องสาระสำคัญต่าง ๆ ชองกฎหมายที่ควรรู้ ของ พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒
๒) เพื่อให้การเตรียมการของเภสัชกรและหน่วยงาน องค์กรด้านยา อุตสาหกรรม และวิชาชีพ เกิดการปรับตัว และนำไปสู่การปฏิบัติได้จริง ไม่ทำผิดกฎหมาย ต่อ พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒
๓) เพื่อสร้างความเข้มแข็ง และเห็นแนวทางปฏิบัติของเภสัชกรหรือผู้เชี่ยวชาญที่มาแชร์ประสบการณ์