การประชุมวิชาการ
Latest Advancements in Composition Analysis for Pharma & Bioprocessing by PAT and Elemental Impurities with Cleaning Validation
ชื่อการประชุม Latest Advancements in Composition Analysis for Pharma & Bioprocessing by PAT and Elemental Impurities with Cleaning Validation
สถาบันหลัก สมาคมเภสัชกรอุตสาหการ (ประเทศไทย)
รหัสกิจกรรม 2004-2-000-012-07-2566
สถานที่จัดการประชุม โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ สุขุมวิท 11 กรุงเทพมหานคร
วันที่จัดการประชุม 25 ก.ค. 2566
ผู้จัดการประชุม สมาคมเภสัชกรอุตสาหการ (ประเทศไทย)
กลุ่มเป้าหมาย บุคลากรที่ปฏิบัติงาน ประกันคุณภาพ ควบคุมคุณภาพ ผลิต วิศวกรรม ผู้ตรวจประเมินระบบคุณภาพ/GMP และผู้สนใจทั่วไป
หน่วยกิตการศึกษาต่อเนื่อง 4 หน่วยกิต
หลักการและเหตุผล
การหา Elemental impurities ในอุตสาหกรรมยา
Elemental impurities เป็นข้อกำหนดหัวข้อหนึ่งที่ใช้ในการควบคุมคุณภาพผลิตภัณฑ์ยาซึ่งใช้สำหรับวัตถุดิบตัวยาสำคัญ สารช่วยในตำรับยา วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในกระบวนการผลิต วัสดุการบรรจุ ตลอดจนผลิตภัณฑ์ยา ที่อาจเกิดตามธรรมชาติ มีการตั้งใจเติมสารดังกล่าว หรือมาจากปฏิกิริยาที่เกิดระหว่างผลิตภัณฑ์ สารปนเปื้อนดังกล่าวไม่ได้มีผลต่อการรักษา แต่อาจก่อให้เกิดความเป็นพิษต่อผู้ใช้ยาเมื่อได้รับในปริมาณมากได้ โดยตั้งแต่เดือนมกราคม 2561 เภสัชตำรับของอเมริกา (United States Pharmacopeia ; USP ได้ประกาศยกเลิก General Chapter <231> Heavy metals และให้ใช้ General Chapter <232> Elemental impurities-Limits และ <233> Elemental impurities-Procedures แทน โดยกระบวนการวิเคราะห์ที่ระบุใน USP ใช้เทคนิค Inductively coupled plasma–atomic (optical) emission spectroscopy (ICP–AES หรือ ICP–OES) หรือ Inductively coupled plasma–mass spectrometry (ICP–MS)
ICP-OES และ ICP-MS เป็นหนึ่งในวิธีการวิเคราะห์ธาตุ (Elemental analysis) โดยหลักการของ
atomic spectroscopy เป็นการวิเคราะห์โดยอาศัยกระบวนการคายพลังงานของอะตอม (Atomic emission)
โดย ICP เป็นแหล่งกำเนิดไอออน ด้วยการกระตุ้นที่อุณหภูมิสูง ที่ทำให้เกิดกระบวนการกำจัดตัวทำละลาย (Desolvation) ออกจากสารละลายตัวอย่าง และระเหยสารตัวอย่าง ไอของโมเลกุลเหล่านี้จะถูกเปลี่ยนให้เป็นอะตอม แล้วจึงเกิดการแตกตัวเป็นไอออน โดยไอออนของตัวอย่างที่เกิดขึ้น สามารถตรวจวัดด้วยวิธี spectrometry สองชนิด คือ ICP-AES หรือที่เรียกว่า ICP-OES ทำการตรวจวัดความยาวคลื่นที่อะตอมคายพลังงานออกมาในรูปของแสง และ ICP-MS ทำการตรวจวัดธาตุตามอัตราส่วนของมวลต่อประจุ (mass-to-charge ratio, m/z) ดังนั้นเพื่อให้มีการเลือกใช้เทคนิคการวิเคราะห์ Elemental impurities ตลอดจนการเตรียมตัวอย่าง
สำหรับการควบคุมคุณภาพผลิตภัณฑ์ยา จึงมีความจำเป็นต้องทำการศึกษาเพื่อให้มีความเข้าใจ และเลือกใช้ได้
อย่างเหมาะสม

การวิเคราะห์ TOC ในอุตสาหกรรมยา
การควบคุมคุณภาพของกระบวนการผลิต และสินค้า มีความสำคัญเป็นอย่างมากในอุตสาหกรรมยา การวิเคราะห์ TOC ก็เป็นหนึ่งในหลาย ๆ ค่าที่ใช้ในการควบคุมคุณภาพ ทั้งในน้ำบริสุทธ์สูง ยาฉีด และน้ำสะอาด เป็นต้น
การตรวจสอบและลดการปนเปื้อนจากการผลิตยาที่ต่างกันในกระบวนการผลิต เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน ผลกระทบจากการล้างระบบอย่างสมบูรณ์จะต้องมีการตรวจสอบด้วยเครื่องวิเคราะห์ต่าง ๆ เช่น HPLC, GC, TOC, conductivity, pH และ ค่าแรงตึงผิว เป็นต้น การวิเคราะห์ TOC มีบทบาทที่สำคัญในกระบวนการประเมินประสิทธิภาพการล้าง (cleaning validation) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตัวยาที่มีความซับซ้อน หรือตัวยาที่ต้องมีการใช้สารชะล้างหลายตัว คาร์บอนเป็นองค์ประกอบหลักของสารอินทรีย์ การวิเคราะห์ TOC จึงสามารถวิเคราะห์สารตกค้างจากกลุ่มอินทรีย์ระหว่างตัวยา สารที่ใช้ช่วยในการผลิต ปฎิกริยาจากสารต่าง ๆ และสารทำความสะอาด ในช่วงความเข้มข้นต่ำ ๆ ระดับ 50 ppb และต่ำกว่า จึงเป็นการวิเคราะห์ ที่เป็นตัวแปรสำหรับการคัดกรองได้

เทคโนโลยีการวิเคราะห์กระบวนการในอุตสาหกรรมยา; Process Analytical Technology (PAT)
ในการควบคุมคุณภาพแบบออฟไลน์แบบดั้งเดิมในอุตสาหกรรมยา ตัวอย่างจะถูกเก็บในขั้นตอนต่างๆ ของกระบวนการ และส่งไปยังห้องปฏิบัติการเพื่อการวิเคราะห์คุณภาพ อาจใช้เวลาหลายชั่วโมงกว่าจะได้ผลลัพธ์ ทำให้เกิดความล่าช้า และไม่สามารถควบคุมกระบวนการตามผลลัพธ์ได้ในทันที โดยในปัจจุบันได้มีการประยุกต์ นำ PAT มาใช้ในกระบวนการผลิตยา โดยเครื่องมือวิเคราะห์ เช่น สเปกโตรมิเตอร์ ซึ่งจะได้รับผลการวัดแบบอินไลน์ และแบบเรียลไทม์ ได้รับข้อมูลตามเวลาจริง โดยสามารถทำการปรับปรุงทั้งการควบคุมกระบวนการและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ได้อย่างทันท่วงที
องค์ประกอบหลักและหลักการของเทคโนโลยีวิเคราะห์กระบวนการ
• การตรวจสอบกระบวนการตามเวลาจริง โดยการเน้นการใช้เครื่องมือวิเคราะห์แบบอินไลน์หรือออนไลน์ที่สามารถให้ผลลัพธ์ได้ทันที ที่เกี่ยวกับพารามิเตอร์ สิ่งนี้ทำให้สามารถปรับเปลี่ยนและแทรกแซงได้ทันท่วงทีเพื่อรักษาการควบคุมกระบวนการ
• การวิเคราะห์ข้อมูลหลายตัวแปร: PAT เกี่ยวข้องกับการประยุกต์ใช้เทคนิคทางสถิติและการวิเคราะห์ข้อมูลหลายตัวแปรเพื่อดึงข้อมูลที่มีความหมายจากชุดข้อมูลขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นในระหว่างกระบวนการผลิต การวิเคราะห์เหล่านี้ช่วยระบุความสัมพันธ์ รูปแบบ และความผันแปรของกระบวนการที่อาจส่งผลต่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์
• กลยุทธ์การควบคุมกระบวนการ: PAT ช่วยให้สามารถใช้กลยุทธ์การควบคุมกระบวนการตามเวลาจริงโดยอิงจากการวิเคราะห์ข้อมูลกระบวนการ ด้วยการตรวจสอบพารามิเตอร์กระบวนการที่สำคัญอย่างต่อเนื่อง ทำให้สามารถตรวจจับและแก้ไขความเบี่ยงเบนได้ทันท่วงทีเพื่อรักษาคุณภาพและลดความผันแปรให้เหลือน้อยที่สุด
• Quality by Design (QbD): QbD เป็นส่วนสำคัญของ PAT โดยมุ่งเน้นที่การทำความเข้าใจผลกระทบของพารามิเตอร์กระบวนการที่มีต่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ด้วยการออกแบบการทดลองอย่างเป็นระบบ การประเมินความเสี่ยง และการตรวจสอบกระบวนการอย่างต่อเนื่อง เป้าหมายคือเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการและรับประกันคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่สม่ำเสมอ
วัตถุประสงค์
• เพื่อให้เข้าใจหลักการพื้นฐานของเทคนิค ICP-AES หรือ ICP-OES และ ICP-MS
• เพื่อให้สามารถนำเทคนิค ICP-AES หรือ ICP-OES และ ICP-MS มาใช้ในการวิเคราะห์ Elemental
impurities ในผลิตภัณฑ์ยาได้ตามวิธีการ USP <232> <233> และ ICH Q3D
• เพื่อให้สามารถเลือกวิธีการเตรียมตัวอย่างสำหรับวิเคราะห์ Elemental impurities ในผลิตภัณฑ์ยาได้อย่างเหมาะสม
• เพื่อให้เข้าใจหลักการตรวจสอบคุณภาพน้ำ และการควบคุมคุณภาพของกระบวนการผลิต โดยใช้ TOC
• เพื่อให้เข้าใจบทบาทที่สำคัญในกระบวนการประเมินประสิทธิภาพการล้าง (cleaning validation)
• เพื่อให้สามารถนำเทคโนโลยีการวิเคราะห์กระบวนการ (PAT) มาประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมยาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• เพื่อให้เข้าใจบทบาทในการปรับปรุงคุณภาพผลิตภัณฑ์โดยการตรวจสอบพารามิเตอร์ที่สำคัญในกระบวนการผลิตและคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์แบบเรียลไทม์ โดย PAT
• เพื่อให้สามารถเลือกและเข้าใจในอุปกรณ์ หรือเครื่องวิเคราะห์ในการใช้งาน พร้อมโซลูชันสำเร็จรูปสำหรับกระบวนการต้นน้ำและปลายน้ำ
คำสำคัญ
Elemental impurities, ICP–AES, ICP–OES, ICP-MS, TOC
วิธีสมัครการประชุม
ลงทะเบียนออนไลน์ได้ที่ http://tipa.or.th/tipa/register/ (ไม่มีค่าใช้จ่าย) เภสัชกรที่เข้าร่วมประชุมวิชาการครั้งนี้จะได้ 4 หน่วยกิตการศึกษาต่อเนื่อง