การประชุมวิชาการ
หลักสูตรประกาศนียบัตรผู้ให้ความรู้เบาหวาน คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล รุ่นที่ 6 ภาคเรียนที่ 1
ชื่อการประชุม หลักสูตรประกาศนียบัตรผู้ให้ความรู้เบาหวาน คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล รุ่นที่ 6 ภาคเรียนที่ 1
สถาบันหลัก คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
รหัสกิจกรรม 1002-2-000-023-08-2565
สถานที่จัดการประชุม ณ ศูนย์เบาหวานศิริราช คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล และ ผ่านทางระบบออนไลน์
วันที่จัดการประชุม 18 ส.ค. 2565 - 25 พ.ย. 2565
ผู้จัดการประชุม ฝ่ายเภสัชกรรม โรงพยาบาลศิริราช
กลุ่มเป้าหมาย แพทย์ พยาบาล นักโภชนาการ นักกำหนดอาหาร เภสัชกร นักสุขศึกษา และอื่นๆ
หน่วยกิตการศึกษาต่อเนื่อง 84.25 หน่วยกิต
หลักการและเหตุผล
การรักษาโรคเบาหวานให้มีประสิทธิภาพ นอกจากการใช้ยาลดระดับน้ำตาลแล้ว การให้ความรู้โดยมุ่งหวังให้ผู้เป็นเบาหวานมีพฤติกรรมสุขภาพที่ดีขึ้น มีส่วนสำคัญมากในการรักษา โดยในต่างประเทศการให้ความรู้และสร้างทักษะให้กับผู้เป็นเบาหวานเป็นหน้าที่ของบุคลากรผู้ให้ความรู้เบาหวานโดยเฉพาะ (Diabetes Educator)
จากการสำรวจสุขภาพของประชากรครั้งที่ 6 (พ.ศ. 2562 - 2563) พบว่า อัตราการเกิดโรคเบาหวานเพิ่มขึ้นจาก 8.9% (ในการสำรวจครั้งที่ 5, พ.ศ. 2557) เป็น 9.5% และมีผู้เสี่ยงเบาหวานจำนวน 10.7% นอกจากนี้โรคเบาหวานยังเป็นสาเหตุการตายที่สำคัญของประชากร ส่งผลให้ประเทศต่างๆ ทั่วโลก ใช้จ่ายงบประมาณจำนวนมากในการดูแลรักษาโรคเบาหวานและภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ที่เกิดขึ้นการควบคุมระดับน้ำตาลให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม สามารถลดการเกิดภาวะแทรกซ้อน ทั้งต่อหลอดเลือดแดงขนาดเล็ก หลอดเลือดแดงขนาดใหญ่ และยังลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคเบาหวานทั้งในผู้เป็นเบาหวานชนิดที่ 1 และชนิดที่ 2 ทั้งนี้ ในการรักษาเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมนั้น นอกจากการใช้ยาลดระดับน้ำตาลแล้ว ความร่วมมือจากผู้เป็นเบาหวานในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย การรับประทานยาและฉีดยาอย่างสม่ำเสมอ ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษา แนวทางเวชปฏิบัติสำหรับโรคเบาหวานทั้งของไทยและต่างประเทศ ชี้ให้เห็นว่า การให้ความรู้เพื่อการจัดการตนเองด้านเบาหวาน (Diabetes Self-management Education and Support, DSMES) โดยมีผู้ให้ความรู้เบาหวาน (Diabetes Educator) เป็นผู้สอนตั้งแต่แรกวินิจฉัยและให้คำแนะนำและการสนับสนุนในการดูแลตนเองอย่างต่อเนื่อง เป็นส่วนสำคัญในการดูแลผู้เป็นเบาหวาน จากการศึกษาแบบ Meta-analysis ในต่างประเทศแสดงให้เห็นว่าการได้รับ DSMES ส่งผลให้ระดับน้ำตาลสะสมหลังเข้าร่วมกิจกรรมลดลงประมาณ 0.76% แม้ว่าระดับน้ำตาลสะสมมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในภายหลัง และจากการทบทวนวรรณกรรมเกี่ยวกับความคุ้มค่าของการให้ DSMES ในช่วงเวลา 15 ปี ตั้งแต่ พ.ศ. 2534 – 2549 พบว่า ร้อยละ 70 ของการศึกษาเหล่านี้ ชี้ให้เห็นว่าการให้ DSMES สามารถลดค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาเบาหวานได้ จึงเห็นได้ว่า การให้ความรู้ในการจัดการตนเองด้านเบาหวานมีส่วนช่วยในการควบคุมระดับน้ำตาลและมีความคุ้มค่าในด้านเศรษฐกิจ
หลักสูตรประกาศนียบัตรผู้ให้ความรู้เบาหวาน คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
(Certified Diabetes Educator Program, Faculty of Medicine Siriraj Hospital) ได้เริ่มเปิดสอนรุ่นที่ 1 ในปีการศึกษา 2560 โดยศูนย์เบาหวานศิริราชร่วมกับสาขาวิชาต่อมไร้ท่อและเมตะบอลิสม ภาควิชาอายุรศาสตร์, สาขาวิชาต่อมไร้ท่อและเมตาบอลิสม ภาควิชากุมารเวชศาสตร์, ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา ฝ่ายการพยาบาล ฝ่ายเภสัชกรรม และฝ่ายโภชนาการ โดยมี Mrs. Anne Belton (RN, CDE, MEd) จาก The Michener institute of Education at UHN, Canada ร่วมจัดทำหลักสูตรนี้ และมีอาจารย์แพทย์และทีมสหสาขาเข้าศึกษาอบรมหลักสูตร Diabetes Educator Graduate Certificate Program, The Michener Institute, IDF School for Diabetes Educator ทั้งนี้ ศูนย์เบาหวานศิริราชได้รับการรับรองจาก International Diabetes Federation (IDF) ให้เป็น IDF Center of Education ในปี พ.ศ. 2560 – 2562 และต่ออายุเป็น IDF Center of Excellence in Diabetes care ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2563
หลักสูตรนี้ มุ่งเน้นให้ผู้เรียนมีความรู้เบาหวานเชิงลึก (Advance) ที่ได้รับการถ่ายทอดจากคณาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเบาหวานและด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกับการพัฒนาทักษะในด้านต่างๆ เช่น ทักษะการสอน ทักษะการฟัง การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การเป็นพี่เลี้ยง (Coaching & Mentoring, Facilitator, Supporter) ทั้งนี้ หลักสูตรฯ ได้เปิดสอนนักศึกษาแล้ว จำนวน 5 รุ่น มีนักศึกษาที่จบการศึกษาจำนวน 81 คน โดยผู้ที่สำเร็จการศึกษาฯ ได้ปฏิบัติงานให้ความรู้เบาหวานในโรงพยาบาลของรัฐและเอกชน มีผลให้ผู้เป็นเบาหวานมีพฤติกรรมการจัดการเบาหวานด้วยตนเองได้ดีขึ้น
วัตถุประสงค์
เมื่อสิ้นสุดการเรียนการสอนตามหลักสูตรฯ ผู้สำเร็จการศึกษาจะมีคุณสมบัติดังนี้
1. มีความรู้และความชำนาญขั้นสูงในการถ่ายทอดความรู้เบาหวานและสามารถสร้างทักษะในการจัดการตนเองให้กับผู้เป็นเบาหวานและครอบครัว
2. สามารถนำทฤษฎีในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและทฤษฎีด้านการเรียนการสอนมาใช้เพื่อให้ผู้เป็นเบาหวานมีทัศนคติที่ดีจนนำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในทางที่ดีขึ้น
3. ความรู้ด้านการวิจัยเบื้องต้นสามารถสืบค้นความรู้อย่างต่อเนื่องจากงานวิจัยต่างๆ เพื่อนำมาประยุกต์ใช้กับผู้เป็นเบาหวานในการจัดการตนเอง
4. มีคุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณที่ดีแห่งวิชาชีพในการปฏิบัติงาน
คำสำคัญ
วิธีสมัครการประชุม
อัตราค่าลงทะเบียน ค่าลงทะเบียนเรียน 35,000 บาท (สามหมื่นห้าพันบาทถ้วน) และ สำหรับบุคลากรจากโรงพยาบาลร่วมสอนที่ทำบันทึกความร่วมมือกับคณะฯ และ โรงพยาบาลในสังกัดคณะฯ ค่าลงทะเบียน 30,000 บาท (สามหมื่นบาทถ้วน)