หลักการและเหตุผล
การใช้ยาอย่างสมเหตุผลเป็นความจำเป็นเร่งด่วนของประเทศที่ต้องดำเนินการ เนื่องจากส่งผลต่อการรักษาผู้ป่วยในด้านประสิทธิผล คุ้มค่า ปลอดภัย และสามารถลดการเกิดอาการไม่พึงประสงค์ และปัญหาเชื้อดื้อยาองค์การอนามัยโลก มีคำจำกัดความของ “การใช้ยาอย่างสมเหตุผล” ไว้ คือ “ผู้ป่วยได้รับยาที่เหมาะสมกับปัญหาสุขภาพ โดยใช้ยาในขนาดที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย ด้วยระยะเวลาการรักษาที่เหมาะสม และมีค่าใช้จ่ายต่อชุมชนและผู้ป่วยน้อยที่สุดในประเทศไทย การใช้ยาอย่างไม่สมเหตุผลเกิดขึ้นทั้งในสถานพยาบาลและชุมชน นับเป็นปัญหาระดับชาติมานานหลายทศวรรษที่สำคัญ กระทรวงสาธารณสุขเล็งเห็นความสำคัญของการส่งเสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุผล และได้กำหนดแผนงานที่ ๖ การพัฒนาระบบบริการสุขภาพ (Service Plan) โครงการป้องกันและควบคุมการดื้อยาต้านจุลชีพและการใช้ยาอย่างสมเหตุสมผล โดยปีงบประมาณ ๒๕๖๕ แนวทางการดำเนินงานการใช้ยาอย่างสมเหตุผลตามแผนพัฒนาระบบบริการสุขภาพ ได้กำหนดให้มีการส่งเสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุผลในสถานพยาบาลของรัฐ(RDU Hospital/PCU) ร่วมกับ การส่งเสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุผลในชุมชน (RDU Community) และการส่งเสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุผล ในสถานบริการสุขภาพเอกชน (โรงพยาบาลเอกชน คลินิก ร้านยา: RDU Private Sector) และเพื่อให้ การดำเนินการใช้ยาอย่างสมเหตุผลเชื่อมโยงทั้งหน่วยบริการสุขภาพทุกระดับสู่ชุมชน ครอบครัวและบุคคล ตลอดจนมีการจัดการความเสี่ยงที่เกิดขึ้น ทั้งในระบบบริการสุขภาพและชุมชน โดยมีเป้าหมายให้ประชาชนปลอดภัยจากการใช้ยา มีความรอบรู้ในการใช้ยา และการดูแลสุขภาพตนเองเบื้องต้นเมื่อเจ็บป่วย
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ จึงจัดให้มีโครงการป้องกันและควบคุมการดื้อยาต้านจุลชีพและการใช้ยาอย่างสมเหตุสมผลในร้านขายยาแผนปัจจุบัน จังหวัดชัยภูมิ ปีงบประมาณ ๒๕๖๕ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการดำเนินงานการใช้ยาอย่างสมเหตุผลตามแผนพัฒนาระบบบริการสุขภาพปีงบประมาณ ๒๕๖๕ ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
วัตถุประสงค์
๑.๔.๑ มีการดำเนินงานการใช้ยาอย่างสมเหตุผล เฝ้าระวังความปลอดภัยด้านยาเชิงรุก และส่งเสริมให้มีการจัดการเกี่ยวกับเชื้อดื้อยาต้านจุลชีพ ที่มีประสิทธิภาพในร้านขายยาแผนปัจจุบัน ในจังหวัดชัยภูมิ
๑.๔.๒ เพื่อให้เภสัชกรในร้านขายยาแผนปัจจุบัน เกิดความรู้และสร้างความเข้าใจเรื่องการใช้ยาสมเหตุผล Rational drug use (RDU) มากยิ่งขึ้น
๑.๔.๓ เพื่อให้เภสัชกรในร้านขายยาแผนปัจจุบัน สามารถ ให้ความรู้และแนะนำการดูแลสุขภาพแก่ประชาชน ช่วยปรับเปลี่ยนความเชื่อและพฤติกรรมการใช้ยาที่ผิดของประชาชนได้