บทคัดย่อ
โรคกลาก (dermatophytosis) เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อราที่ผิวหนังชั้นนอก (superficial fungal infections) ชนิดหนึ่ง ส่วนใหญ่พบได้บริเวณผิวหนัง เล็บ และเส้นผม โดยสาเหตุสำคัญในการก่อโรคคือเชื้อรากลุ่ม dermatophytes มีชื่อเรียกเฉพาะ ว่าโรคกลาก หรือ “tinea” โดยแต่ละตำแหน่งของผิวหนังที่ติดเชื้อราจะมีชื่อเรียกเป็นภาษาลาตินแตกต่างกันไป เช่น tinea cruris-กลากที่ขาหนีบ tinea pedis-กลากที่เท้า tinea corporis-กลากที่ลำตัว โรคกลากเป็นโรคที่สามารถพบได้ในคนทั่วไป ทุกเพศ ทุกวัย จากรูปแบบการติดต่อของโรคที่อาศัยเพียงการสัมผัสบริเวณรอยโรคก็สามารถติดได้ อุบัติการณ์การเกิดโรคกลากจึงสูงถึงร้อยละ 20-25 ของจำนวนประชากรโลก1 อาการของโรคกลากส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย โรคกลากจึงเป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่นำผู้ป่วยเข้ามารับคำปรึกษาและรักษาในร้านยา เภสัชกรมีบทบาทสำคัญในการซักประวัติ ประเมินอาการเพื่อแยกโรคและวางแผนการรักษาให้กับผู้ป่วย การตัดสินใจเลือกใช้ยารักษาโรคกลากที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละรายให้มีประสิทธิภาพ เกิดอาการข้างเคียงน้อย และมีความสะดวกในการใช้ จึงเป็นสิ่งที่เภสัชกรควรพิจารณาให้ครอบคลุม
bifonazole เป็นยาต้านเชื้อราที่มีขอบเขตการออกฤทธิ์กว้าง ครอบคลุมเชื้อราหลายชนิดรวมถึงเชื้อแบคทีเรียแกรมบวกบางชนิด และมีฤทธิ์ลดการอักเสบ จึงมีประสิทธิภาพดีในการรักษาโรคกลาก และโรคติดเชื้อที่ผิวหนังชั้นตื้นอื่น ๆ นอกจากนี้ยังเป็นยาที่ค่อนข้างปลอดภัย อาการข้างเคียงพบน้อยและไม่รุนแรง ผู้ป่วยให้ความร่วมมือในการใช้ยาดีเนื่องจากทาเพียงวันละหนึ่งครั้ง ทำให้มีความนิยมใช้ bifonazole เพิ่มขึ้นในปัจจุบัน บทความนี้จะกล่าวถึงประสิทธิภาพของ bifonazole ในผู้ป่วยโรคกลากและโรคติดเชื้อผิวหนังชั้นตื้นที่ตอบสนองกับยา bifonazole ที่พบได้บ่อยได้ร้านยา