ด้วยปัญหาการน ายาไปใช้ในทางที่ผิด เป็นปัญหาที่สั่งสมมานาน และส่งผลต่อสุขภาพของคนไทยอย่างชัดเจน ทั้งปัญหาทางสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิต โดยปัญหาที่มีการน ายาไปใช้ในทางที่ผิดในแต่ภูมิภาค
ของประเทศอาจแตกต่างกันไป เช่น ในภาคเหนือ และภาคอีสาน พบปัญหาการบริโภคยาสเตอรอยด์จนก่อให้เกิดอาการข้างเคียงรุนแรง ในภาคใต้ การน ายาน้ าแก้แพ้แก้ไอ และยาทรามาดอลไปผสมในสูตร 4x100 ยังคงพบได้
ทั่วไป และได้ขยายวงกว้างมายังภาคอีสานและภาคกลาง ส่งผลให้เกิดปัญหาการติดยาเสพติดตามมา นอกจากนี้การก าหนดมาตรการในการควบคุมการกระจายยาดังกล่าวยังไม่สามารถด าเนินการแก้ปัญหาได้อย่างครอบคลุม ไม่
สามารถควบคุมการน ายาไปใช้ในทางที่ผิดได้และยังพบว่าผู้รับอนุญาตผลิตและผู้รับอนุญาตขายยายังไม่ปฏิบัติตามมาตรการที่ส านักงานคณะกรรมการอาหารและยาก าหนดอย่างจริงจัง ดังนั้น การก าหนดมาตรการในการเฝ้าระวัง
การน ายาไปใช้ในทางที่ผิดจึงจ าเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากเครือข่ายในแต่ละภูมิภาค ในการเฝ้าระวังปราบปรามและบังคับใช้กฎหมาย โดยเน้นการสร้างมาตรการสืบสวน สอบสวนเชิงลึกเพื่อป้องกันและปราบปราม
ผู้ฝ่าฝืนกฎหมาย โดยท างานเชื่อมโยงเป็นเครือข่ายของหน่วยงานในส่วนกลางและจังหวัด ทั้งในและนอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุข

กองยาเล็งเห็นถึงความส าคัญของเครือข่ายเฝ้าระวังด้านยาและเพื่อให้เกิดกระบวนการเฝ้าระวังที่บูรณาการการท างานของส่วนกลางและภูมิภาค จึงเห็นควรให้มีการจัดอบรมเครือข่ายเฝ้าระวังการน ายาไปใช้
ในทางที่ผิด เพื่อก าหนดมาตรการและจัดท าแผนปฏิบัติการในการควบคุมการกระจาย เภสัชเคมีภัณฑ์และยาส าเร็จรูปที่มีแนวโน้มน าไปใช้ในทางที่ผิด (ยาทรามาดอล ยาน้ าแก้แพ้แก้ไอ) โดยจัดอบรมให้แก่เครือข่ายในพื้นที่ที่
พบมีการกระจายยาที่มีแนวโน้มน าไปใช้ในทางที่ผิด โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้

1 เพื่ออบรมแนวทางในการเฝ้าระวังการน ายาไปใช้ในทางที่ผิดให้แก่เครือข่ายภาครัฐและองค์กรอิสระในการคุ้มครองผู้บริโภค
2 เพื่ออบรมมาตรการทางกฎหมายให้แก่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดเพื่อใช้ในการปราบปรามผู้ฝ่าฝืนพระราชบัญญัติยา พ.ศ.2510 เพื่อป้องปรามการน ายาไปใช้ในทางที่ผิด
3 เพื่อสร้างเครือข่ายในการเฝ้าระวังการน ายาไปใช้ในทางที่ผิด โดยท างานเชื่อมโยงเป็นเครือข่ายของหน่วยงานในส่วนกลางและจังหวัด ทั้งในและนอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุข

เฝ้าระวัง