0 2591 9992 กด 4
ccpe@pharmacycouncil.org
หน้าแรก
เกี่ยวกับเรา
ข้อบังคับ ประกาศ และคู่มือ
การประชุมวิชาการ
บทความวิชาการ
ขั้นตอนและคำขอ
ตรวจสอบหน่วยกิต
คำถามที่พบบ่อย
ติดต่อเรา
บทความวิชาการ
การเปรียบเทียบแนวทางการศึกษาชีวสมมูลสำหรับยารูปแบบ ของแข็งชนิดรับประทานแบบปลดปล่อยตัวยาทันที: EMA, ASEAN และ ICH M13A
ชื่อบทความ
การเปรียบเทียบแนวทางการศึกษาชีวสมมูลสำหรับยารูปแบบ ของแข็งชนิดรับประทานแบบปลดปล่อยตัวยาทันที: EMA, ASEAN และ ICH M13A
ผู้เขียนบทความ
รศ.ดร.ภก.ทรงวุฒิ ยศวิมลวัฒน์ และ ผศ.ดร.ภญ.วรรณกมล สอนสิงห์
สถาบันหลัก
คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
รหัสกิจกรรม
1003-1-000-004-11-2568
ผู้ผลิตบทความ
คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
การเผยแพร่บทความ
ผู้ประกอบวิชาชีพทุกคน
วันที่ได้รับการรับรอง
26 พ.ย. 2568
วันที่หมดอายุ
25 พ.ย. 2569
หน่วยกิตการศึกษาต่อเนื่อง
2.5 หน่วยกิต
บทคัดย่อ
การศึกษาชีวสมมูล (bioequivalence study) มีบทบาทสำคัญในการขึ้นทะเบียนยาสามัญ เพื่อยืนยันความเทียบเท่าทางการรักษากับยาต้นแบบ ที่ผ่านมาแต่ละภูมิภาคได้ออกแนวทางการศึกษาชีวสมมูลของตนเอง โดยประเทศในอาเซียนได้ประกาศใช้แนวทางอาเซียน (ASEAN) ซึ่งปรับใช้มาจากแนวทางขององค์การยาแห่งสหภาพยุโรป (EMA) ขณะที่แนวทางสากล ICH M13A เพิ่งมีการประกาศใช้เมื่อปี ค.ศ. 2024 บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทบทวนและเปรียบเทียบแนวทางทั้งสามในด้านโครงสร้าง ขอบเขต และประเด็นสำคัญเชิงปฏิบัติ ได้แก่ การออกแบบการศึกษา การคัดเลือกอาสาสมัคร ภาวะที่ใช้ในการบริหารยา ผลิตภัณฑ์และความแรงที่ใช้ศึกษา แผนการเก็บตัวอย่าง พารามิเตอร์ทางเภสัชจลนศาสตร์ และการวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติ ผลการเปรียบเทียบพบว่า ทั้งสามแนวทางมีหลักการพื้นฐานร่วมกัน ได้แก่ การให้ความสำคัญต่อการออกแบบการศึกษาชีวสมมูลในรูปแบบไขว้สลับ (crossover) และการพิจารณาผลการศึกษาชีวสมมูลจากค่าพารามิเตอร์ทางเภสัชจลนศาสตร์ (pharmacokinetic parameters) โดยใช้ค่าช่วงความเชื่อมั่นร้อยละ 90 (90% confidence interval) เป็นเกณฑ์เช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามยังมีความแตกต่างเชิงรายละเอียด เช่น ภาวะการบริหารยาที่เกี่ยวข้องกับอาหาร การใช้ pAUC หรือ tmax สำหรับยาที่มีความสำคัญในระยะออกฤทธิ์ช่วงต้น และการกำหนดความแรงของยาที่ใช้ศึกษา โดยเฉพาะแนวทาง ICH M13A ที่มุ่งสร้างมาตรฐานสากลเพื่อลดความซ้ำซ้อนและเพิ่มความคล่องตัวในการยื่นทะเบียนยาในหลายภูมิภาค การเปรียบเทียบนี้จึงสะท้อนพัฒนาการของแนวทางชีวสมมูลจากระดับภูมิภาคสู่ระดับสากล ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อผู้พัฒนายา หน่วยงานกำกับดูแล และการเข้าถึงยาที่มีคุณภาพของประชาชนในอนาคต
คำสำคัญ
ชีวสมมูล, ยา, EMA, ASEAN