บทคัดย่อ
เอสทีทรอล (estetrol หรือ E4) เป็นเอสโตรเจนรูปแบบธรรมชาติชนิดแรกที่มีความจำเพาะในการกระตุ้นตัวรับเอสโตรเจนชนิดย่อยแอลฟ่า (estrogen receptor: ER) ในบริเวณนิวเคลียส โดยไม่มีผลต่อ ER ที่บริเวณเยื่อหุ้มเซลล์ (cell membrane) ผลของการจับกับตัวรับ ER ที่มีความจำเพาะส่งผลให้ E4 มีฤทธิ์คล้ายกับเอสโตรเจนชนิดอื่น แต่จัดว่ามีความปลอดภัยค่อนข้างสูง เนื่องจาก E4 มีผลลดความเสี่ยงภาวะหลอดเลือดดำอุดตัน ไม่มีผลรบกวนการสร้างโปรตีน sex hormone binding globulin (SHBG) และไขมันในตับ ทั้งนี้ยามีสมบัติทางเภสัชจลนศาสตร์ที่ดี ถูกดูดซึมได้ดีโดยการรับประทาน กระจายตัวได้ดี โดยจับกับพลาสมาโปรตีนประมาณร้อยละ 46-50 มีค่าครึ่งชีวิตยาวประมาณ 24-32 ชั่วโมง และไม่ถูกเปลี่ยนเป็นสารออกฤทธิ์ชนิดอื่น ดังเช่นเอสตราไดออล (estradiol: E2) ที่ถูกเปลี่ยนเป็นสาร E1 และสัมพันธ์กับการเกิดภาวะหลอดเลือดดำอุดตัน นอกจากนั้น E4 ยังไม่ผ่านกระบวนการเปลี่ยนแปลงโดยเอมไซน์ไซโตโครมพี 450 (CYP450) จึงลดโอกาสเกิดอันตรกิริยากับยาชนิดอื่น ปัจจุบัน E4 ได้รับการรับรองขึ้นทะเบียนใช้ประโยชน์เป็นยาเม็ดคุมกำเนิดในหลายประเทศของยุโรป และอเมริกา โดยใช้ E4 ขนาด 15 มิลลิกรัม ร่วมกับโปรเจสติน (progestins) ชนิดดรอสพิรีโนน (drospirenone) ขนาด 3 มิลลิกรัม ในรูปแบบยาเม็ดคุมกำเนิดจำนวน 28 เม็ด (มีตัวยา/ไม่มีตัวยา: 24/4 เม็ด) ผลการวิจัยทางคลินิกพบว่ายาคุมกำเนิดที่มี E4/drospirenone เป็นส่วนประกอบให้ประสิทธิภาพดีในการคุมกำเนิด ลดความเสี่ยงการเกิดภาวะหลอดเลือดดำอุดตัน และลดโอกาสเกิดมะเร็งเต้านมได้ดีกว่าเอสโตรเจนชนิดอื่น โดยก่อให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ต่ำ ซึ่งอาการที่พบ ได้แก่ ภาวะเลือดออกระหว่างรอบเดือน ปวดศีรษะ และเป็นสิว เป็นต้น ปัจจุบันกำลังมีการวิจัยทางคลินิกเพื่อพัฒนานำ E4 ใช้ในการรักษาและทดแทนภาวะขาดฮอร์โมนเพศหญิงในหญิงวัยหมดประจำเดือน
คำสำคัญ
เอสทีทรอล, estetrol: E4, ดรอสพิรีโนน (drospirenone), ยาเม็ดคุมกำเนิด