หลักการและเหตุผล
ยาต้านจุลชีพเป็นกลุ่มยาที่มีปริมาณการใช้สูงที่สุดกลุ่มหนึ่งในโรงพยาบาลและเป็นยาที่พบปัญหาการใช้ยาอย่างไม่เหมาะสม เช่น การใช้ยาอย่างพร่ำเพรื่อโดยไม่จำเป็น การหยุดใช้ยาก่อนเวลาอันสมควร ตลอดจนการบริหารยาไม่เหมาะสมที่ส่งผลให้เชื้อจุลชีพดื้อต่อยา และผลการรักษาผู้ป่วยล้มเหลวจนนำไปสู่การเสียชีวิตหรือต้องอยู่รักษาตัวในโรงพยาบาลนานขึ้นซึ่งผลสุดท้ายทำให้ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะปัญหาเชื้อจุลชีพดื้อยาต้านจุลชีพซึ่งกำลังเป็นปัญหาสำคัญที่กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดให้อยู่ในแผนพัฒนาระบบสุขภาพ (Service plan) ของแผนยุทธศาสตร์การจัดการการดื้อยาต้านจุลชีพประเทศไทย พ.ศ. 2560–2564 โดยความร่วมมือกับองค์การอนามัยโลก แต่การที่เภสัชกรจะปฏิบัติงานร่วมกับทีมสุขภาพให้แผนยุทธศาสตร์ดังกล่าวให้ได้ผลสัมฤทธิ์นั้นต้องอาศัยปัจจัยที่สำคัญหลายประการร่วมกัน โดยปัจจัยประการหนึ่งที่จะขาดเสียมิได้ก็คือความรู้ที่ทันต่อสถานการณ์ในเรื่องของเชื้อก่อโรคดื้อยา การแปลผลทางห้องปฏิบัติการ และการใช้ยาบำบัดสำหรับโรคติดเชื้อซึ่งเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยให้การดำเนินกลยุทธ์เพื่อส่งเสริมให้นโยบายดังกล่าวสัมฤทธิ์ผลตามเป้าหมายของกระทรวงสาธารณสุข