การประชุมวิชาการ
สัมมนา: ร้านยายุคไทยแลนด์ 4.0
ชื่อการประชุม สัมมนา: ร้านยายุคไทยแลนด์ 4.0
สถาบันหลัก วิทยาลัยเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
รหัสกิจกรรม 1012-2-000-012-10-2560
สถานที่จัดการประชุม ห้องประชุม 502 ชั้น 5 อาคาร 80 ปี คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กรุงเทพมหานคร
วันที่จัดการประชุม 05 ต.ค. 2560
ผู้จัดการประชุม วิทยาลัยเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
กลุ่มเป้าหมาย เภสัชกร จำนวน 200 คน
หน่วยกิตการศึกษาต่อเนื่อง 5.5 หน่วยกิต
หลักการและเหตุผล
สุขภาพเป็นปัจจัยพื้นฐานสำคัญในการดำรงชีวิตและการพัฒนาศักยภาพของมนุษย์ กระทรวงสาธารณสุข หน่วยงานหลักที่ดูแลทางด้านสุขภาพและสาธารณสุขของประเทศชาติจึงได้จัดทำแผนยุทธศาสตร์ชาติด้านสาธารณสุขตามนโยบายรัฐบาลที่จะนำประเทศไทยก้าวสู่ Thailand 4.0 โดยตั้งเป้าหมายให้ “ประชาชนสุขภาพดี เจ้าหน้าที่มีความสุข ระบบสุขภาพยั่งยืน” ดังนั้นพฤติกรรมในการดูแลสุขภาพจึงเป็นเรื่องสำคัญมากที่จะต้องส่งเสริมให้ประชาชนทุกคนรักสุขภาพ
กระทรวงสาธารณสุขได้มีการพัฒนาความรู้ด้านพฤติกรรมสุขภาพของคนไทย โดยการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ชาติด้านสาธารณสุขระยะ 20 ปี (พ.ศ.2560-2579) ตามนโยบายของรัฐบาลที่จะนำประเทศไทยก้าวเข้าสู่ยุค 4.0 (Thailand 4.0) รองรับอนาคตสังคมเมือง และสังคมผู้สูงอายุ โดยร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งตั้งเป้าหมายให้ปี พ.ศ.2579 เป็นผู้นำด้านการแพทย์และสาธารณสุข 1 ใน 3 ของเอเชีย โดยการพัฒนาความเป็นเลิศใน 4 ด้านคือ 1) การส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค 2) ระบบบริการ 3) การพัฒนาคน และ 4) ระบบบริหารจัดการ
ร้านยาเป็นหน่วยหนึ่งของระบบสุขภาพที่อยู่ใกล้ชิดประชาชน ไม่เพียงแต่ทำหน้าที่ด้านการกระจายยาเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญเปรียบเสมือนเป็น “ที่พึ่งด้านสุขภาพของชุมชน” เป็นทางเลือกหนึ่งของประชาชนในการใช้บริการเมื่อมีอาการหรือเจ็บป่วยเบื้องต้น นอกจากนี้ ร้านยายังเป็นแหล่งที่สามารถให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพตนเอง การแนะนำและส่งต่อไปยังแพทย์ผู้เชี่ยวชาญตามความเหมาะสม ประเทศไทยมีร้านยาจำนวนมาก และกระจายในเขตต่างๆทั่วประเทศ เป็นส่วนหนึ่งของระบบสาธารณสุข ส่วนใหญ่ร้านยาจะเปิดบริการช่วงเวลายาวและเปิดทุกวัน ยกเว้นบางร้าน อาจ เลือกปิดเป็นบางวัน ประชาชนจึงเข้าถึงบริการได้ง่าย ประกอบกับร้านยาเป็นหน่วยหนึ่งในภาคเอกชน การบริหารจัดการหรือการดำเนินการต่าง ๆ จึงสามารถช่วยประหยัดงบประมาณการคลังของรัฐในการดูแลสุขภาพของคนไทยซึ่งมีแนวโน้มที่เพิ่มมากขึ้นมาโดยตลอดได้
ทั้งนี้พบว่าในสถานการณ์ปัจจุบัน ร้านขายยา มีการแข่งขันสูง เนื่องจากการขยายสาขาของร้านเชน รวมไปถึงเภสัชกรจบใหม่ที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นทุกปี และต้องการสร้างธุรกิจเป็นของตัวเอง รูปแบบร้านขายยาจึงมีการเปลี่ยนไป มีความทันสมัยมากขึ้น ประกอบกับกฎหมายเกี่ยวกับระเบียบการปฏิบัติที่ดีของร้านขายยา (Good Pharmacy Practice-GPP) ที่บังคับให้ร้านขายยาที่จะเปิดใหม่ต้องผ่านการประเมินมาตรฐานดังกล่าวก่อน รวมไปถึงร้านขายยาเดิมที่ต้องผ่านมาตรฐานภายใน 8 ปี ทำให้ร้านขายยาต้องมีการพัฒนา เพื่อให้ได้มาตรฐานและสามารถแข่งขันได้ การพัฒนาให้ร้านมีความน่าสนใจ ดึงดูดลูกค้าจึงเป็นช่องทางที่จะทำให้สามารถเกิดการแข่งขันได้ การนำเทคนิคการตลาดและการปรับรูปแบบให้ทันสมัยเป็นกลยุทธ์ที่ต้องนำมาเรียนรู้และพัฒนาต่อไป ร้านยาจะต้องมีการปฏิบัติที่สอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง มีการปฏิบัติที่เป็นไปตามจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ และมีบริการอื่นๆ ที่ช่วยส่งเสริมด้านสุขภาพ และมีบริการที่มีส่วนร่วมกับชุมชนโดยเฉพาะที่ร้านยาตั้งอยู่
ด้วยเห็นถึงความสำคัญของมาตรฐานร้านยาในอนาคต คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ร่วมกับ คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สำนักงานรับรองคุณภาพร้านยา สภาเภสัชกรรม และมูลนิธิคุณแม่คุณภาพ จึงร่วมกันจัดสัมมนาวิชาการเรื่อง “ร้านยายุคไทยแลนด์ 4.0” เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติงานและพัฒนาร้านยาให้ได้มาตรฐานให้แก่เภสัชกรที่จะนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ได้อย่างเหมาะสมต่อไป
วัตถุประสงค์
1. สามารถนำความรู้ไปประยุกต์ เพื่อพัฒนาร้านขายยาของผู้เข้าสัมมนาให้มีรูปแบบที่ดี
มีความทันสมัยและแข่งขันได้
2. มีความรู้เกี่ยวกับกฎหมายเบื้องต้นที่ใช้บังคับมาตรฐานขั้นต่ำของร้านขายยาได้
คำสำคัญ
ร้านยายุคไทยแลนด์ 4.0 ภาษีร้านขายยา อาหารและโภชนาการในร้านยา การใช้ยาและสมุนไพร